วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การวิจัยทางรัฐศาสตร์และกฎหมาย


การวิจัยทางรัฐศาสตร์และกฎหมาย

สิ่งที่อาจารย์สอนในวันนี้ คือเรื่องการเขียนรายงาน พอสรุปได้ดังนี้ (จำทุก Step ให้ได้)

Step 1 ก็คือเลือกเรื่องที่เราสนใจ

Step 2 เอาเรื่องจาก Step 1 มาตั้งเป็นข้อสงสัยเพื่อทำการวิจัย เรียกว่า เรื่องที่สงสัยหรือคำถามในการวิจัย (Research Question) หมายถึงคำถามที่ผู้วิจัยต้องการแสวงหาคำตอบเกี่ยวกับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น คำถามในการวิจัยนี้เป็นที่มาของชื่อเรื่องในการวิจัย เช่น

-

-

-

-

ใน Step นี้ อาจารย์เน้นว่าจะต้องมี 2 ทฤษฎีมาอ้างอิงได้ คือ

1) ทฤษฎีทางการบริหารรัฐกิจ (PA) คือให้ยกทฤษฎีอ้างอิง

2) ทฤษฎีกฎหมาย (Law) คือให้ยกว่ามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง

ที่มาของข้อมูล มาจากที่ไหน เช่น

ตัวชี้วัด

Step 3 ชื่อเรื่องที่จะวิจัย คือการเปลี่ยนเรื่องที่สงสัย (Research Question) ใน Step 2 ซึ่งเป็นประโยคคำถาม มาเป็นชื่อเรื่องวิจัย

หลักเกณฑ์ในการตั้งชื่อเรื่องที่จะวิจัย

- ต้องเป็นวลี ไม่ใช่เป็นประโยค ไม่ว่าจะเป็นประโยคใดๆก็ตาม

- ไม่ตอบคำถามในตัวของมันเอง

- อ่านแล้วทำให้ทราบว่าจะต้องมีการค้นคว้าเพิ่มเติม

-

-

ข้อสังเหตุ ขั้นตอนจาก Step ที่ 1 - 3 เรียกว่า Proposal

Step 4 คือกรอบแนวในการวิเคราะห์ (Conseptual Framework) หลังจากที่กำหนดชื่อเรื่องตามขั้นตอนตาม Step 3 แล้ว ขั้นตอนต่อไปต้องกำหนดกรอบแนววิเคราะห์หรือแนวคิด เพื่อนำไปเขียนสมมติฐาน การกำหนดกรอบแนวคิดในการวิจัยนี้อาจมาจากแนวความคิด ทฤษฏี งานวิจัย หรือประสบการณ์ของผู้วิจัยก็ได้

วัตุประสงค์ของกรอบแนวคิด เพื่อแผนที่นำทางผู้วิจัยไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ ทำให้ทราบว่ากำลังต้องการหาคำตอบอะไร ซึ่งในการกำหนดกรอบแนวคิดนี้ ผู้วิจัยจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับตัวแปรและการตั้งสมมติฐานในการวิจัยด้วย

กรอบแนวในการวิเคราะห์ โดยการสร้างแบบขึ้นมาเอง เขียนเป็นรูปแผนผัง โดยการเอาข้อมูลมาจาก Review Literature (คือ 2 ทฤษฎีที่กล่าวมาแล้วคือ ทฤษฎีทางการบริหารรัฐกิจและทฤษฎีกฎหมาย)

Step 5 (อาจารย์ยังไม่สอน)

การบ้าน

มี 3 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 ให้ตั้งชื่อเรื่องที่จะวิจัย โดยเขียนตามหลักเกณฑ์ตาม Step 1-3

ส่วนที่ 2 ให้ทำ Conseptual Framework (ทำเฉพาะ Outline และรายละเอียดนิดหน่อย)

ส่วนที่ 3

1) เขียนบทนำและสภาพของปัญหา

- มี Keyword ของเรื่องที่จะวิจัย ต้องเชื่อมโยงกับหลัก PA และ LAW ความยาวไม่เกิน 2 หน้า

2) สภาพของปัญหา (Research Problem) คือปัญหาทาง PA และ LAW ว่ามีอย่างไร จำนวน 2 หน้า

Due Date: ต้องส่งวันเสาร์หน้า ถ้าส่งจะได้คะแนนทันที ถูกผิดไม่สำคัญ

อย่าให้คนอื่นทำ อาจารย์แช่งไว้ ...... โหดด้วย ขอบอก

หลักการเขียนรายงานการวิจัย

โดย ไตรภพ USA

การเขียนรายงานการวิจัย โดยทั่วไปมี 5 บท (2/2552, S/2552)

บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา (2/2552)

ประกอบด้วย

- ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา (S/2552)

- วัตถุประสงค์

- ขอบเขต ข้อจำกัด

- ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

- บทนิยามศัพท์ที่ใช้ในการวิจัย (S/2552) บทนิยามศัพท์นี้จะเกี่ยวข้องกับมโนทัศน์หรือสังกัป (Consept) (S/2552)

บทที่ 2 การทบทวนวรรณกรรม

ประกอบด้วย

- กรอบแนวคิด

- ทฤษฎี

- สมมติฐาน

- วรรณกรรม (S/2552)

- งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 3 วิธีการที่ใช้ในการวิจัย (Methodology) หรือวิธีดำเนินการวิจัย ประกอบไปด้วย

ประกอบไปด้วย

- ประเภทของการวิจัย

- ประชากร (Population)

- กลุ่มตัวอย่าง ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง วิธีเลือกกลุ่มตัวย่าง

- เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล

- วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล

- วิธีการรายงานผลการวิเคราะห์ข้อมูล

จากบทที่ 1-3 เรียกว่า Proposal

บทที่ 4 ผลของการวิจัย

บทที่ 5 สรุป

ประกอบไปด้วย

- การอภิปรายผล

- ข้อเสนอแนะของนักวิจัย (S/2552)